Introduction
สถาบันสถาปนา หรือ Foundation เป็นนิยายเล่มแรกในชุดสถาบันสถาปนาของไอแซค อสิมอฟ นักเขียนชื่อดังผู้เขียนนิยายเรื่อง ข้าคือหุ่นยนต์(I, Robot) และ มนุษย์สองร้อยปี(The Bicentennial Man) ซึ่งทั้งสองเรื่องต่างก็ถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนต์แล้วทั้งสิ้น ในบรรดานิยายและเรื่องสั้นนับร้อยเรื่องที่เขาเขียนตลอดช่วงชีวิตของเขา หนังสือชุดสถาบันสถาปนาได้รับการยกย่องให้เป็นผลงานที่ยอดเยื่ยมที่สุดในบรรดาผลงานทั้งหมด
เนื้อหา
สถาบันสถาปนาเล่มแรกนั้น กล่าวถึงเหตุการณ์ในยุคอนาคตที่มนุษย์ออกไปทั้งถิ่นฐานอยู่ทั่วไปในกาแลคซี่ ดาวเคราะห์กว่ายี่สิบห้าล้านดวงที่มีมนุษย์อาศัยอยู่ล้วนอยู่ภายใต้การปกครองของจักรวรรดิ์แห่งสากลจักรวาล อันมีจักรพรรดิ์เป็นประมุขสูงสุด จักรวรรดิ์อันยิ่งใหญ่ดำรงค์อยู่ได้เป็นเวลาถึงหนึ่งหมื่นปีจนกระทั่งได้เข้าสู่ยุคแห่งความเสื่อมถอย แต่ด้วยความกว้างใหญ่ของจักรวรรดิ์นี่เองทำให้ความเสื่อมถอยนั้นเกิดขึ้นแบบช้าๆ และค่อยเป็นค่อยไปมาเป็นเวลานานหลายร้อยปี โดยที่ไม่มีใครตระหนักถึงความเสื่อมถอยนั้นเลย
จนกระทั่งมีชายผู้หนึ่งนามว่า ดร.ฮาริ เซลด้อน ได้พัฒนาวิชาอนาคตประวัติศาสตร์ขึ้น สมการอนาคตประวัติศาสตร์ของเซลด้อนสามารถทำนายถึงความเสื่อมที่จะเกิดกับจักรวรรดิ์ได้ ดร.เซลด้อนพบว่าจักรวรรดิ์จะต้องล่มสลายอย่างแน่นอน และจะเกิดเป็นอนารยยุคหรือยุคมืดที่กินเวลายาวนานถึง 30,000 ปี กว่าที่จะค่อยๆ สร้างจักรวรรดิ์ที่สองขึ้นมาได้สำเร็จ ดร.เซลด้อน จึงคิดแก้ไขปัญหาด้วยการใช้การคำนวนทางอนาคตประวัติศาสตร์หาวิธีย่นระยะเวลาแห่งยุคมืดนั้นให้เหลือเพียงแค่หนึ่งพันปี โดยการจัดตั้งสถาบันสถาปนาขึ้น สองแห่ง ไว้ที่ด้านตรงข้ามกันของจักรวาลเพื่อทำหน้าที่รวบรวมสรรพวิทยาความรู้ต่างๆ ของมนุษย์ไม่ให้สูญหายไป

อะไรคือวิชาอนาคตประวัติศาสตร์ (Psychohistory)
สิ่งที่น่าประทับใจที่สุดของเรื่องนี้คงจะหนีไม่พ้น วิชาอนาคตประวัติศาสตร์(Psychohistory) ซึ่งเซลด้อนให้คำนิยามว่า เป็นแขนงหนึ่งของวิชาคณิตศาสตร์ซึ่งว่าด้วยปฏิกิริยาของมวลชนเมื่อได้รับแรงกระตุ้นจากสภาพสังคมและสภาพเศรษฐกิจ พูดง่ายๆ ก็คือ อนาคตประวิติศาสตร์เป็นศาสตร์ที่สามารถทำนายพฤติกรรมในอนาคตของมนุษย์โดยใช้สมการคณิตศาสตร์เข้าช่วยนั่นเอง
แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีจุดอ่อน
วิชาอนาคตประวัติศาสตร์นั้นไม่สามารถคาดเดาพฤติกรรมของมนุษย์ที่เป็นปัจเจคชน (มนุษย์เพียงคนเดียว) หรือมนุษย์ที่มีจำนวนน้อยๆได้ ในทางกลับกันถ้าเป็นมวลชนขนาดมหาศาลแล้ว พฤติกรรมจะสามารถคำนวนได้ และยิ่งปริมาณประชากรมีมากขึ้นเท่าไหร่ความถูกต้องแม่นยำก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น
อสิมอฟได้แนวคิดวิชาอนาคตประวัติศาสตร์มาจากทฤษฏีจลน์ของแก็สที่สามารถทำนายปฎิกิริยาของโมเลกุลแก็สเมื่อความดันหรืออุณหภูมิเปลี่ยนไป โมเลกุลของแก็สจึงเปรียบได้กับมนุษย์ที่จำเป็นต้องมีจำนวนมากเพื่อให้เกิดความแม่นยำ ส่วนความดันและอุณหภูมิก็เปรียบเสมือนสภาพเศรษฐกิจและสังคมอันเป็นปัจจัยที่ส่งผลกับพฤติกรรมของมนุษย์แต่ละคน (อสิมอฟจบปริญญาเอกทางด้านเคมีจากมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย)

Summary
จากประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา อารยธรรมต่างๆล้วนเกิดขึ้น รุ่งเรืองและเสื่อมสายไป ไม่มีอารยธรรมใดเลยที่จะหนีพ้นวัฎจักรนี้ไปได้ แต่วิชาอนาคตประวัติศาสตร์คือความหวังที่จะเอาชนะวัฎจักรนี้ เมื่อนำมาใช้อย่างถูกต้องวิชาอนาคตประวัติศาสตร์จะช่วยให้เราทำนายถึงความเสื่อมถอยของอารยธรรมของเราได้ก่อนที่มันจะเกิด และสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงที อารยธรรมของเราก็จะเกิดขึ้น รุ่งเรืองและจะรุ่งเรืองอยู่เช่นนี้ตลอดไป น่าเสียดายเหลือเกินที่ศาสตร์แห่งวิชาอนาคตประวัติศาสตร์เป็นเพียงแต่จินตนาการของนักเขียนนิยายวิทยาศาสตร์ผู้ยิ่งใหญ่นามว่า อสิมอฟเพียงเท่านั้น...
